หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

5 เมนูอาหารสำหรับผู้ป่วยเพื่อต้านมะเร็ง


อาหารต้านมะเร็ง
1. ผัก  - ผักมีกากใยปริมาณมาก  ซึ่งผักที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านมะเร็ง ได้แก่
v   กลุ่มผักมีสี เช่น บีทรูท ผักโขม แครอท มะเขือเทศ  ยิ่งมีสีเข้มมมากเท่าไหร่ นั่นหมายถึงว่ามีสารที่มีประโยชน์ (phytochemical) มากขึ้นเท่านั้น   รงควัตถุเหล่านี้ได้แก่ ไบโอฟลาวินอยด์ 20,000 ชนิด และแคโรทีนอยด์ 800 ชนิด ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องร่างกายและยังช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในการทำลายเซลล์มะเร็ง
v   กลุ่มกะหล่ำ เช่น กะหล่ำปลี บร็อคโคลี กะหล่ำดอก   ในผักชนิดนี้จะมีสารต้านมะเร็ง  สารที่ช่วยขจัดสารพิษ ตลอดจน อินดอล-3-คาร์บินอลและซัลโฟราเฟน
v   หัวหอม&กระเทียม – ประกอบด้วยไบโอฟลาวินอยด์หลายชนิดด้วยกัน หนึ่งในนั้นได้แก่ เคอร์ซิทิน ซึ่งสามารถเปลี่ยนเซลล์มะเร็งให้เป็นเซลล์ปกติได้  นอกจากนี้ยังมีสารต้านมะเร็งอื่นๆ ได้แก่ อัลลิซิน , เอส-อัลลิล ซิสทีอิน, ซีลีเนียมและสารที่เรายังไม่รู้จักอีกมากมาย   ดังนั้นจึงเป็นเรื่องดี ที่เราจะรับประทานกระเทียมและหัวหอม เป็นประจำ
2. ปลาน้ำเย็น เช่น แซลมอน คอท แมคเคอเรล  ซาร์ดีน  ทูน่าและปลาจากทะเลน้ำลึก  ในปลา  เหล่านี้จะอุดมไปด้วยไขมันที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง ได้แก่ EPA(eicosapentaenoic acid) และ DHA ( docosahexaenoic acid) ซึ่งชะลอการแพร่ของมะเร็ง  กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน และยังประกอบด้วยแร่ธาตุต่างๆที่พบในน้ำทะเล แต่ไม่พบในดิน
3.ถั่ว เช่น ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วลิสง ในถั่วเหล่านี้พบว่ามีสารต้านโปรตีเอสในปริมาณสูง(มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง) นอกจากนี้ยังพบว่ามีอินโนซิทอล เฮกซาฟอสเฟต(กรดไฟตริก ซึ่งในท้องตลาด จะขายในรูปของ IP-6)  และจีเนสเตอิน (ทำให้เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงเซลล์มะเร็งตีบลง)   นอกจากนี้ในถั่วยังอุดมไปด้วยกากใยที่สามารถละลายน้ำได้ ซึ่งจะช่วยในขบวนการทำความสะอาดของร่างกายตามธรรมชาติ

4.เมล็ดธัญพืช เช่นข้าว โอ๊ต  บาร์เลย์  ข้าวโพด ข้าวสาลี  เนื่องจากเมื่อกากใยของพืชเหล่านี้แตกตัวที่ลำไส้จะเปลี่ยนเป็นกรดบิวไทริกที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง
5.สาหร่ายทะเล  จะประกอบด้วยสารบางชนิดที่ป้องกันการติดเชื้อในทางเดินอาหาร  และยังประกอบด้วยกากใยชนิดพิเศษที่สามารถละลายน้ำได้ซึ่งจะเป็นตัวกลางในการนำไขมันอันตราย สารอนุมูลอิสระ สารพิษต่างๆออกจากลำไส้     นอกจากนี้สาหร่ายทะเลยังเป็นแหล่งของแร่ธาตุอย่างดีจากน้ำทะเล
6.เบอร์รี่ เช่น ราสเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ เชอร์รี่  เบอร์รี่สีดำ เพราะในเบอร์รี่จะมีสารต้านมะเร็งในปริมาณสูง และยังมีกรดอัลลาจิกที่จะทำลายเซลล์มะเร็งให้ตาย

7.โยเกิร์ต  เนื่องจากในโยเกิร์ตจะมีแบคทีเรียชนิดแลคโตบาซิลัส ที่สามารถหมักนมให้เป็นสารที่มีประโยชน์ต่อทางเดินอาหารและระบบภูมิคุ้มกัน  และเนื่องจากกว่า 80% ของระบบภูมิคุ้มกันจะอยู่ที่ทางเดินอาหาร  ดังนั้นโยเกิร์ตจึงเป็นอาหารที่จัดว่าเป็นยาอายุวัฒนะที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับร่างกายในการป้องการติดเชื้อและยังช่วยต้านมะเร็งอีกด้วย
8.ชาเขียว  ประกอบด้วยคาเทชินและสารเคมีในพืชอีกหลายชนิดด้วยกัน  จากงานวิจัยของสถาบันมะเร็งแห่งชาติประเทศญี่ปุ่นและจีน พบว่าชาเขียวสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งและยังสามารถเปลี่ยนเซลล์มะเร็งให้เป็นเซลล์ปกติได้
หมายเหตุ  การดื่มชาเขียวให้ได้รับประโยชน์เต็มที่นั้น ต้องดื่มทันทีหลังจากชงเสร็จ เนื่องจากถ้าทิ้งไว้ชาเขียวจะทำปฎิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ  ทำให้สูญเสีย   คุณค่าไป
9.เครื่องเทศ  -มาสตาร์ด  พริก พริกไท  กระเทียม หัวหอม  ขิง โรสแมรี่  อบเชยและเครื่องเทศอื่นๆที่ใช้ปรุงแต่งรส  สามารถต้านมะเร็งและกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
10.น้ำสะอาด  - เป็นเรื่องแปลกที่กว่า 2 ใน 3 ของพื้นที่บนโลกและของร่างกายนั้นประกอบด้วยน้ำ  เนื่องจากน้ำนั้นเป็นเป็นสารตัวกลางสำคัญของร่างกายที่ใช้ในขบวนการต่างๆของเซลล์ อาทิเช่น ควบคุมสมดุลกรด-ด่าง  การทำความสะอาด  การขจัดสิ่งสกปรก  และยังนำพาสารอาหารที่มีประโยชน์เข้าสู่เซลล์  ตลอดจนนำของเสีย หรือสารพิษออกจากเซลล์อีกด้วย
10 เมนูอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง
1.ห่อหมกปลาช่อนใบยอ
ส่วนผสม
1. มะกรูด ใบตอง กระทิ หัวกระทิ พริกเเกงเเดง(ทำห่อหมก) เนื้อปลาช่อน ผักชี ใบยอ
2.ปลาช่อน หั่นเอาเนื้อ 1 ถ้วย
วิธีทำ
1. เตรียมใบมะกูดมาหันฝอยๆ  ใบยอ  พริกแกงแดงทำห่อหมก
2.คั้นน้ำกะทิ แล้วนำพริกแกงมาใส่  หัวกระทิแยกไว้
3.นำเนื้อปลาช่อนมาใส่หม้อพร้อมเครื่องแกงตีไข่เป็ด ใส่ 2ฟอง ปรุงรส คนให้เข้ากัน จนเป็นเนื้องวดๆ
4.เตรียมใบตองพร้อมห่อ
ใส่พริกแกงคนพร้อมกับหัวกระทิ
รองด้วยใบยอ 
5.นำใบย่อรองบนใบตองก่อนแล้วนำเครื่องแกงห่อหมกมาใส่ตามด้วยใบมะกูด ราดด้วยหัวกะทิข้นๆ ราดลองไป เสร็จแล้วก็ห่อ
6.เมื่อห่อเสร็จแล้ว นำไปนึ่งให้สุก ประมาณ 30-40 นาที จนหอม
7.ยกลง พร้อมเสริฟ ก็อร่อยสุดๆ
ขอขอบคุณ : http://foodfunza.blogspot.com

2.ฉู่ฉี่ปลาทับทิม
เครื่องปรุง
1. ปลาทับทิม หรือ ปลานิล ทอดกรอบๆ
2. น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา ชูรส (ผสมรวมกันไว้ ปรุงให้ได้ 3 รส)
3. พริก กระเทียม รากผักชี (โขลกรวมกันไม่ต้องละเอียดมาก)
วิธีทำ
-.คลุกปลาด้วยมะนาว แล้วจึงเคล้าด้วยเกลือ เกลือกด้วยแป้งสาลีบางๆ
-.ใส่น้ำมันในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ทอดปลาพอเหลืองตักขึ้น พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
-.โขลกพริกชี้ฟ้า กระเทียม 5 กลีบ รากผักชี เข้าด้วยกัน
-.ใส่น้ำมันในกระทะ ตั้งไฟร้อน ใส่เครื่องที่โขลก ผัดพอหอม ใส่น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา ชูรส
-.ราดใส่ที่ปลา ตักใส่จานเสิร์ฟ

3.แกงเผ็ดเป็ดย่าง
เครื่องปรุง
เป็ดย่าง ½ ตัว
สัปปะรดหั่นเป็นชิ้น ½ ถ้วย
น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ½ ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
ใบมะกรูด 5 ใบ
มะเขือเทศลูกเล็ก 6 ลูก
วิธีทำ
1. นำเป็ดย่างมาแกะกระดูกออก หั่นเป็นชิ้นขนาดพอคำ นำใบมะกรูดและมะเขือเทศไปล้างน้ำให้สะอาด สะเด็ดน้ำแล้วฉีกใบมะกรูดเอาเส้นกลางใบออก และผ่ามะเขือเทศเป็นสองส่วน
2. เปิดเตาที่ไฟปานกลาง นำหัวกะทิใส่ลงในหม้อประมาณ ½ ถ้วย (ไม่ต้องคนกะทิก่อนเทนะคะ จะได้ส่วนบนเป็นหัวกะทิ) รอจนหัวกะทิเดือดก็ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไป ผัดให้น้ำพริกกับกะทิเข้ากัน รอจนกะทิแตกมัน (หมั่นคนเป็นระยะนะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวก้นจะไหม้)
3. เมื่อกะทิแตกมันได้ที่แล้วจึงใส่เนื้อเป็ดย่างที่หั่นไว้ลงไป ผัดให้เข้ากัน ทะยอยเติมกะทิที่เหลือลงไปครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะประมาณ 3 ครั้ง
4. ใส่สัปปะรดและมะเขือเทศที่หั่นแล้วลงไป คนให้เข้ากัน ใส่กะทิที่เหลือลงไปจนหมด ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว (หรือน้ำปลา) และน้ำตาลทราย รอจนกะทิเดือดอีกครั้ง ก็ใส่ใบมะกรูดลงไป คนให้เข้ากัน ปิดเตา
5. ตักใส่ชาม จากนั้นก็ยกเสิร์ฟได้เลยค่ะ
4.ไข่เจียวใส่หอมหัวใหญ่-มะเขือเทศส่วนผสม
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- ถั่วฝักยาว
- หอมหัวใหญ่
- แครอท
- มะเขือเทศ
- น้ำมันพืช
วิธีการทำ
- เมื่อเราได้เตรียมของทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็ทำการตอกไข่ จากนั้นใส่น้ำมันเตรียมพร้อมเอาตั้งไฟ ใช้ไฟไม่ต้องแรงมากประมาณกลางๆ ตั้งน้ำมันรอไว้
- ทีนี่เราก็มาตีไข่ใส่ชาม จากนั้นใส่ซีอิ้วขาว ในส่วนนี้สามารถที่จะใส่เครื่องปรุงอย่างอื่นได้ด้วย ส่วนผัก ก็แล้วแต่ชอบอยากใส่อะไรก็ได้ อย่างเช่น ข้าวโพด กระเทียม ต้นหอม  หรือไก่สับ หมูสับก็ได้
- พอน้ำมันเริ่มร้อนได้ที่ก็เทไข่ใส่ลงไปได้เลยปรับไฟลงประมาณนึง พยายามอย่าใจร้อนเพราะถ้าเราใจร้อนใข่ด้านนอกสุก แต่ข้างในอาจจะยังไม่สุกไข่ด้านนอกอาจจะไหม้ก่อนค่อยๆกลับด้านในหมุนไป เรื่อยๆ จนสุก
5.ไก่ทอดสมุนไพร

ส่วนประกอบและวิธีทำ น่องไก่บน ทอดสมุนไพร
1 ปีกไก่ส่วนบน (น่องไก่บน) 1 กิโลกรัม ล้างทำความสะอาด สะเด็ดน้ำให้แห้ง
2 ตำส่วนผสมทุกอย่างเข้าด้วยกันมี ขมิ้นปอกเปลือก 1 ขีด , ตะไคร้หั่นตำบีบเอาน้ำออกทิ้งก่อน 3 ต้น , กระเทียมแกะเป็นกลีบ 1 ช้อนโต๊ะ , รากผักชี 5 ราก ตำทุกอย่างรวมกันไม่ต้องถึงขั้นละเอียดมาก แล้วใส่คนอร์ไก่ผง 1 ช้อนโต๊ะ , น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ , แป้งโกกิ 50 กรัม ผสมให้เข้ากันดี นำปีกไก่ที่เตรียมไว้ลงมาคลุกให้ทั่ว หมักไว้ 30 นาที
3 ตั้งกะทะใส่น้ำมันกะให้ท่วมเนื้อไก่ที่จะทอด เปิดไฟแรงก่อน น้ำมันร้อนแล้วค่อยหรี่ใช้ไฟกลาง นำน่องไก่บนหรือปีกไก่ที่หมักไว้ลงทอด ขณะทอดเมื่อเครื่องปรุงทั้งขมิ้นและตะไคร้ที่ตำไว้เริ่มสุกก็จะเริ่มลอยขึ้นมา ให้ใช้ตะแกรงตาถี่ตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมันเก็บไว้ก่อน อย่าปล่อยไว้นานเพราะจะทำให้มีรสขม เมื่อเนื้อไก่ที่ทอดสุกดีแล้ว ให้ตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน ตักวางเรียงใส่จาน นำกากเครื่องปรุง(แก้เลี่ยนได้ดีมาก)ที่เราตักออกมาก่อนนี้โรยบนน่องไก่(บน)ทอดแต่งหน้าด้วยผักชีและพริกแดงเส้น กินคู่กับน้ำจิ้มไก่
เทคนิคการทำ น่องไก่บน ทอดสมุนไพร
1 ปีกไก่ถ้ามีขนอ่อนติดมาก จะลวกน้ำร้อนจัดๆ ก่อนพอให้หนังตึงจะถอนขนได้ง่ายขึ้น
2 เวลาเติมแป้งโกกิต้องค่อยไเติมและผสมไปเรื่อยๆ ไม่งั้นจะจับเป็นก้อน
3 เวลาตั้งน้ำมันต้องเปิดไฟแรงให้น้ำมันร้อนจัดก่อน แล้วค่อยหรี่ไฟ เวลาทอดจะไม่อมน้ำมัน
ขอขอบคุณ : http://yummy-style.blogspot.com
http://www.travelthaimagazine.com